ตำนานหนึ่งของพระฤษีตาไฟมีอยู่ว่า พระฤษีตาไฟก็เป็นพระฤษี ๑ ใน ๔ องค์ ที่ร่วมกันสร้าง “พระซุ้มกอ” พระเครื่องระดับสุดยอด ๑ ในพระเบญจภาคีซึ่งมีอายุเกินกว่าพันปีอันเป็นที่เคารพบูชาของคนไทยชาวพุทธทั่วแผ่นดิน
บางตำนานกล่าวว่า พระฤษีตาไฟ เป็นผู้สร้าง “พระท่ากระดาน” เมืองกาญจนบุรี
พระฤษีตาไฟปรากฏเกร็ดประวัติอยู่ในหลากหลายตำนานทั้งของอินเดียวและของไทยเรา
อีกตำนานหนึ่งเล่าว่าท่านเป็นผู้สาปเมืองศรีเทพหรือเพชรบูรณ์ให้เป็นเมืองร้างเนื่องจากว่ากษัตริย์แห่งเมืองศรีเทพในกาลก่อนนั้นได้เคยมาฝากตัวเป็นศิษย์ร่ำเรียนวิชากับพระฤษีตาไฟจนมีวิชาเต็มตัวและเป็นที่ไว้วางใจของพระอาจารย์.......................................................................................................................
วันหนึ่งพระฤษีตาไฟพาไปดูบ่อวิเศษ ๒ บ่อ ในถ้ำของพระอาจารย์ บ่อหนึ่งหากใครตกลงไปจะเหลือแต่ซากกระดูกในฉับพลันทันที อีกบ่อหนึ่งถ้านำคนหรือสิ่งของลงชุบก็จะกลายเป็นทอง และซากกระดูกที่ตายแล้วก็จะฟื้นคืนชีวิตใหม่
พระฤษีตาไฟจึงลองของให้ลูกศิษย์ชมดูเป็นบุญตา สั่งให้กษัตริย์หนุ่มแห่งศรีเทพนำซากกระดูกของตนไปชุบในบ่อทองเมื่อพระฤษีลงไปในบ่อแรกก็เหลือแต่เพียงกระดูก ร่างท่านมอดไหม้ในชั่วพริบตา แต่ลูกศิษย์เอกกลับไปทำตามคำครู กลับรับเอาของวิเศษอื่นๆ หนีไปจากถ้ำนั้นด้วยคิดว่าจะช่วยพระอาจารย์ขึ้นมาเป็นหนึ่งแข่งกับตนทำไมในเมื่อตนก็มีวิชาแก่กล้าและมีความวิเศษอยู่กับตนแล้ว
แต่เวลาต่อมา “พระฤษีตาวัว” ผู้เป็นสหายของพระฤษีตาไฟได้ดำริเห็นความผิดปกติเพราะมิได้รับการติดต่อจากสหายจึงแสดงอิทธิฤทธิ์เหาะมาที่ถ้ำ เมื่อเห็นโครงกระดูกก็รู้ได้ทันใด พระฤษีตาวัวจึงเอาโครงกระดูกของพระฤษีตาไฟชุบลงในบ่อวิเศษบ่อทอง ทันใดนั้นพระฤษีตาไฟก็ฟื้นคืนชีพขึ้นมาด้วยความโกรธแค้นลูกศิษย์ผู้ทรยศ
พระฤษีตาไฟได้เสกของมีพิษร้ายทั้งปวงเข้าท้องวัวตัวหนึ่ง เมื่อวัวอาคมเข้าไปถึงกลางเมืองก็ร้องด้วยเสียงอันก้อนดังแล้วท้องก็ระเบิดออก พิษต่างๆ แพร่กระจายไปทั่วเมืองจนผู้คนที่ได้รับพิษก็ล้มตายกันจนสิ้น ศิษย์ผู้เป็นเจ้าเมืองก็รู้ว่าพระอาจารย์ของตนมาแก้แค้น แต่ก็ได้รับพิษแล้วจึงถึงแก่ความตายโดยมิอาจแก้ไขอะไรได้ทัน หลายตำนานกล่าวว่า พระฤษีตาไฟ เป็นพระฤษีที่อยู่ในสายพุทธมากกว่าทางพราหมณ์อย่างฤษีส่วนใหญ่
พระฤษีตาไฟเป็นฤษีที่ดุ แต่มุ่งบำเพ็ญภาวนาอยู่ในญาณสมาบัติอย่างเคร่งครัด และเป็นผู้ดำรงตนถือศีลใฝ่ธรรมอย่างแน่วแน่จนเป็นที่เคารพนับถือของคนทั่วไปในสมัยนั้น
ดวงตาที่ ๓
บางแห่งกล่าวว่าพระฤษีตาไฟทรงมีตบะแก่กล้าจนถึงขั้นสามารถเพ่งสิ่งของให้ลุกเป็นไฟได้ด้วยสำเร็จวิชากสิณไฟ
บางตำราว่า ขณะหลับตาเข้าฌานจนมีฤทธิ์แก่กล้า เมื่อลืมตาขึ้นก็จะบังเกิดไฟเผาผลาญสิ่งที่อยู่ในการมองเห็นจนเป็นจุณได้
แต่บางแห่งก็ว่าตาไฟ คือดวงตาดวงที่ ๓ ที่อยู่บนหน้าผากของท่าน
บ้างก็ว่าพระฤษีตาไฟเป็นอีกภาคหนึ่งของพระศิวะ เนื่องจากพระศิวะ มีดวงตาดวงที่ ๓ กลางหน้าผาก ดวงตานี้หากลืมขึ้นมาจะเกิดไฟประลัยกัลป์ในทันที และในทำนองเดียวกันนี้ บางแห่งก็วิเคราะห์ว่าท่านอาจเป็นอีกภาคหนึ่งของพระอิศวร เพราะพระอิศวรมีดวงตาดวงที่ ๓ ที่จะเกิดเป็นไฟได้ด้วยเช่นกัน
ฤทธานุภาพของพระฤษีตาไฟ
หน้าที่เข้าชม | 1,765,538 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 1,167,555 ครั้ง |
เปิดร้าน | 2 พ.ย. 2557 |
ร้านค้าอัพเดท | 28 ส.ค. 2568 |